The terms
“hip” and “hipster” originate from opium smoking, during which the addict lies on one hip
.................................
The terms คําจํากัดความหรือชื่อที่เรียกกันว่า
( เทอม ใครๆก็รู้ว่า เรียนหนังสือเป็นเทอม หรือภาคเรียน แถมยังแปลว่าคําจํากัดความ หรือข้อกําหนดที่ตกลงกันได้อีกด้วย ในที่นี้คือ คําที่เรียกกันว่า)
“hip” and “hipster” ฮิบ และ ฮิบสเตอร์
originate from เกิดขึ้นจาก
opium smoking, การดูดฝิ่น
during which ระหว่างที่นอนดูดฝิ่นนั้น
the addict ขี้ยา
lies on one hip จะนอนบนสะโพกข้างเดียว พูดง่ายๆว่านอนตะแคงนั่นเอง...สมัยก่อนกล้องดูดฝิ่นมันใหญ่ ปลายข้างหนึ่งต้องแตะพื้น
( ฮิบสเตอร์ คือกลุ่มวัยรุ่นที่ แยกตัวออกมาจากสังคม ที่เรียกว่า sub culture แต่งเนื้อแต่งตัว
ตามอําเภอใจ แต่ส่วนใหญ่จะชอบแบบ วินเท๊จ vintage คือแบบเก่าสมัย ปี 1960 เพลงที่ฟังก็จะฟังของพวกที่เราไม่รู้จัก ที่พวกนี้เรียกกันว่า Indie อินดี้ ซึ่งหลายคนแว๊บเข้ามาในสมองทันทีว่า เป็นเพลงอินเดียน่า โจนส์ แต่ก็คิดไม่ออกว่า มันคือเพลงอะไร เพลงแขกอินเดียหรือ หลายคนนิ่งเงียบ เพราะกลัวหาว่าเชยถ้าไม่รู้จักเพลงอินดี้ ความจริงไม่ใช่ มันย่อมาจาก independent band หรือ วงดนตรี นักดนตรี ที่ไม่ยอมขึ้นตรงต่อ บริษัทเพลงของฝรั่งแบบบริษัทแกรมมี่ หรือ อารเอส ...เรามาดู ตัวอย่างกัน ในยูทูปว่าเราเคยได้ยินมาบ้างมั๊ย
https://www.youtube.com/watch?v=MSDLrJBRKWU
https://www.youtube.com/watch?v=8O1TsSvFep8
“hip” and “hipster” originate from opium smoking, during which the addict lies on one hip
.................................
The terms คําจํากัดความหรือชื่อที่เรียกกันว่า
( เทอม ใครๆก็รู้ว่า เรียนหนังสือเป็นเทอม หรือภาคเรียน แถมยังแปลว่าคําจํากัดความ หรือข้อกําหนดที่ตกลงกันได้อีกด้วย ในที่นี้คือ คําที่เรียกกันว่า)
“hip” and “hipster” ฮิบ และ ฮิบสเตอร์
originate from เกิดขึ้นจาก
opium smoking, การดูดฝิ่น
during which ระหว่างที่นอนดูดฝิ่นนั้น
the addict ขี้ยา
lies on one hip จะนอนบนสะโพกข้างเดียว พูดง่ายๆว่านอนตะแคงนั่นเอง...สมัยก่อนกล้องดูดฝิ่นมันใหญ่ ปลายข้างหนึ่งต้องแตะพื้น
( ฮิบสเตอร์ คือกลุ่มวัยรุ่นที่ แยกตัวออกมาจากสังคม ที่เรียกว่า sub culture แต่งเนื้อแต่งตัว
ตามอําเภอใจ แต่ส่วนใหญ่จะชอบแบบ วินเท๊จ vintage คือแบบเก่าสมัย ปี 1960 เพลงที่ฟังก็จะฟังของพวกที่เราไม่รู้จัก ที่พวกนี้เรียกกันว่า Indie อินดี้ ซึ่งหลายคนแว๊บเข้ามาในสมองทันทีว่า เป็นเพลงอินเดียน่า โจนส์ แต่ก็คิดไม่ออกว่า มันคือเพลงอะไร เพลงแขกอินเดียหรือ หลายคนนิ่งเงียบ เพราะกลัวหาว่าเชยถ้าไม่รู้จักเพลงอินดี้ ความจริงไม่ใช่ มันย่อมาจาก independent band หรือ วงดนตรี นักดนตรี ที่ไม่ยอมขึ้นตรงต่อ บริษัทเพลงของฝรั่งแบบบริษัทแกรมมี่ หรือ อารเอส ...เรามาดู ตัวอย่างกัน ในยูทูปว่าเราเคยได้ยินมาบ้างมั๊ย
https://www.youtube.com/watch?v=MSDLrJBRKWU
https://www.youtube.com/watch?v=8O1TsSvFep8
.........................................................................
The man who invented basketball, James Naismith, only played it twice
The man who invented basketball, James Naismith, only played it twice
..................................................
The man กระทาชายนายหนึ่ง
who ผู้ซึ่ง
invented basketball, คิดค้นบ๊าสเก๊ตบอลล์ขึ้นมา
James Naismith, เจมส์ นายสมิธ
only played it twice เคยเล่นมันเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น
...........................................
For 34 years, Japanese inventor Dr Yoshiro Nakamatsu has taken a photo of every single meal he’s eaten
The man กระทาชายนายหนึ่ง
who ผู้ซึ่ง
invented basketball, คิดค้นบ๊าสเก๊ตบอลล์ขึ้นมา
James Naismith, เจมส์ นายสมิธ
only played it twice เคยเล่นมันเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น
...........................................
For 34 years, Japanese inventor Dr Yoshiro Nakamatsu has taken a photo of every single meal he’s eaten
.......................................................................
For 34 years,เป็นเวลายาวนานถึง34ปี
Japanese inventor นักประดิษฐ์ชาวญี่ปุ่น
Dr Yoshiro Nakamatsu ด๊อกเต้อร์ โยชิโร นากามัสซึ
has taken a photo ได้ถ่ายรูป ( มาตลอด)
of every single meal ของอาหารทุกมื้อ
he’s eaten ที่เขากินมัน (= he has eaten)
...................................................
For 34 years,เป็นเวลายาวนานถึง34ปี
Japanese inventor นักประดิษฐ์ชาวญี่ปุ่น
Dr Yoshiro Nakamatsu ด๊อกเต้อร์ โยชิโร นากามัสซึ
has taken a photo ได้ถ่ายรูป ( มาตลอด)
of every single meal ของอาหารทุกมื้อ
he’s eaten ที่เขากินมัน (= he has eaten)
...................................................
............................................................
In Japan, possessing child
pornography is not a crime, but
producing and distributing it are
................................
In Japan, ในประเทศญี่ปุ่น
possessing การครอบครอง
child pornography หนังลามกเด็ก
is not a crime, ไม่ผิดกฏหมาย
but แต่ว่า
producing ผลิต
and distributing it are และจําหน่ายหรือเผยแพร่มันผิดกฏหมาย
.....................................................
Wear heels, ladies: women over
1.72 m tall are twice as likely to earn over $49,000 a year than their shorter mates
In Japan, possessing child
pornography is not a crime, but
producing and distributing it are
................................
In Japan, ในประเทศญี่ปุ่น
possessing การครอบครอง
child pornography หนังลามกเด็ก
is not a crime, ไม่ผิดกฏหมาย
but แต่ว่า
producing ผลิต
and distributing it are และจําหน่ายหรือเผยแพร่มันผิดกฏหมาย
.....................................................
Wear heels, ladies: women over
1.72 m tall are twice as likely to earn over $49,000 a year than their shorter mates
....................................................
Wear heels, ladies: สาวที่ใส่ส้นสูง
women over 1.72 m tall ผู้หญิงที่สูงเกิน ร้อยเจ็ดสิบสอง ซม
are twice as likely to earn over ดูเหมือนว่าจะมีรายได้มากกว่าสองเท่า
$49,000 a year สี่หมื่นเก้าพันเหรียญ
than มากกว่า
their shorter mates เพื่อนๆที่ตัวเตี้ยกว่าของเธอ
(น่าจะหมายถึงนางแบบหรือดารา)
...................................
Wear heels, ladies: สาวที่ใส่ส้นสูง
women over 1.72 m tall ผู้หญิงที่สูงเกิน ร้อยเจ็ดสิบสอง ซม
are twice as likely to earn over ดูเหมือนว่าจะมีรายได้มากกว่าสองเท่า
$49,000 a year สี่หมื่นเก้าพันเหรียญ
than มากกว่า
their shorter mates เพื่อนๆที่ตัวเตี้ยกว่าของเธอ
(น่าจะหมายถึงนางแบบหรือดารา)
...................................
On
average, every person in the USA receives about 34 gigabytes worth of
information mailed to their
home each day
.........................................
On average, โดยประมาณทั่วๆไป
every person ประชาชนทุกคน
in the USA ในสหรัฐ
receives about จะได้รับประมาณ
34 gigabytes สามสิบสี่กิ๊ก
worth of ในปริมาณของ
information mailed รายงานที่มาทางอีเมล์
to their home ที่ส่งมาให้ที่บ้าน
each day ประจําวัน
(ไม่น่าจะถึงสามสิบสี่กิ๊กนะครับ รู้สึกจะเวอร์ไป
แต่ว่า พวกสแปมหรือ ฟอร์เวิดส์เมล์ ทําให้รู้สึกว่าเป็นไปได้)
home each day
.........................................
On average, โดยประมาณทั่วๆไป
every person ประชาชนทุกคน
in the USA ในสหรัฐ
receives about จะได้รับประมาณ
34 gigabytes สามสิบสี่กิ๊ก
worth of ในปริมาณของ
information mailed รายงานที่มาทางอีเมล์
to their home ที่ส่งมาให้ที่บ้าน
each day ประจําวัน
(ไม่น่าจะถึงสามสิบสี่กิ๊กนะครับ รู้สึกจะเวอร์ไป
แต่ว่า พวกสแปมหรือ ฟอร์เวิดส์เมล์ ทําให้รู้สึกว่าเป็นไปได้)
No comments:
Post a Comment