Friday 30 October 2015

พิษภัยของบุหรี่








บุหรี่ มีความดี อะไรบ้าง ที่เห็นๆมีสองอย่าง คือ ช่วยให้ไม่แก่ตาย กับช่วยป้องกันขโมย คือคนติดบุหรี จะลุกขึ้นมาตอนตีสามตีสี่ ซึ่งเป็นเวลาที่ขโมย นักย่องเบา ออกทํางาน เมื่อได้ยินเสียงไอ แค๊กๆ จะตกใจรีบเผ่นทันที โทษของบุหรีที่ร้ายแรงที่สุดคือเป็นมะเร็ง แต่อย่างว่า บางคนดูดมาตั้งแต่อายุ สิบห้าจนเจ็ดสิบห้า ไม่ยักกะเป็นมะเร็ง ดันเป็นโรคตัณหากลับ...ไม่ใช่ผมนะ คนรู้จักกัน เรามาฟังเรื่องนี้กันว่า บุหรีมันมีผลร้ายอย่างไร ....


Carpet burns
A carpet layer had just finished putting down new carpet for a rich lady. Stepping out for a smoke, he patted his pockets only to find that his cigarettes weren’t in their usual place.
Walking back into the apartment, he noticed a lump under the carpet. right in the middle of the room.
“Oh. shit.” he muttered. “There they are.
Well, no sense in pulling up the whole carpet just for a pack of smokes.
Picking up his hammer, he proceeded to pound the lump until it was completely flat and unnoticeable.
As he was tidying up, the owner of the apartment walked in.
“I found your cigarettes in the hallway,” she said, handing him the pack. “Now, if only I could find my darling pet chihuahua!
.....................................................

Carpet burns คารเผ็ต แปลว่า พรม เบิรน แปลว่าใหม้ ถ้าแปลธรรมดาๆในพจนานุกรมไทยทั้งหลายก็แปลว่าว่าพรมใหม้ ซึ่งก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ เพราะ ถ้าพูดในลักษณะนี้ คารเผ็ต จะเป็นคุณศัพท์ เบิรน จะเป็นคำนาม แปลว่า ใหม้เพราะพรม เป็นภาษาทางการ แพทย์ที่อธิบายรอยใหม้ ว่าเกิดจากอะไร รอยใหม้ที่หัวเข่า หลัง หรือข้อศอกด้านนอก ที่เกิดจากการเสียดสี ที่เป็นภาษาฝรั่งว่า friction ฟริ๊คชั่น  จะเรียกว่า Carpet burn เมื่อเป็นแสลง คือท่ารวมเพศที่คุกเข่า ข้างหนึ่งตามรูป 


ที่เรียกว่าท่าหัวเข่าถลอก คนเขียนเอามาตั้งชื่อเรื่องเพื่อล้อเลียน พวกฝรั่งจะเข้าใจ คนไทยจะเรื่องรู้มีไม่กี่คนเพราะ พจนานุกรมไทยยังไปไม่ถึง ที่มีตัวเอสตามหลังก็คือหลายหน )


A carpet layer ช่างปูพรม
 had just finished เพิ่งจะเสร็จ
putting down new carpet จากการปูพรมใหม่
 for a rich lady. ให้เศรษฐีนีคนหนึ่ง
 Stepping out ออกจากห้อง(Stepping out of the room )
for a smoke, เพื่อจะมาสูบบุหรี่
he patted his pockets เขาตบไปที่กระเป๋าเสื้อ
only to find ก็แค่พบ
 that ว่า
his cigarettes บุหรี่ของเค้า
 weren’t ไม่ได้อยู่ (weren’t เวิ๊รน = were not เวอ น๊อต )
in their usual place. ในที่ๆมันเคยอยู่
Walking back เดินกลับมา
 into เข้าไปใน
the apartment, อพาร์ตเม๊นต์ (ที่เขาปูพรมไว้ )
he noticed เขาสังเกตุเห็น
a lump under the carpet. รอยนูนๆใต้พรม
 right in the middle อยู่ตรงกลางพอดิบพอดี
of the room. ของห้อง
“Oh. shit.” โอ้ ชิต ( ชิต คือชื่อเพื่อนเค้าที่ชื่อบุญชิต)
he muttered. เขาพึมพัมกับตัวเองอย่างฉุนเฉียว
“There they are นั่นไงมันอยู่ที่นั่นเอง
Well, อย่างว่า
 no sense มันไร้สาระ ( no sense  โนเซ้นต์ ก็เหมือน none sense
นั้นเซ่นต์ แต่ no sense  ใช้อธิบาย none sense ใช้ด่า )
 in pulling up ที่จะรื้อ
the whole carpet พรมทั้งหมด
 just for เพียงเพื่อ
a pack of smokes. บุหรี่ซองเดียว
Picking up his hammer, หยิบฆ้อนของเค้าขึ้นมา

he proceeded to เขาก็ลงมือ  ดำเนินการ
(proceeded to = started to )
 Pound  ทุบ
 the lump ไอ้ที่มันนูนขึ้นมา
until จนกระทั่ง
it was completely flat มันแบบแต๊ดแต๋
and unnoticeable. และก็มองไม่ออก
As ขณะที่
 he was tidying up, เขาเก็บเครื่องไม้เครื่องมือให้เป็นระเบียบ
 the owner เจ้าของ
of the apartment อพาร์ตเม๊นต์นั่น
walked in. เดินเข้ามา
“I found your cigarettes ฉันเจอบุหรี่ของเธอ
 in the hallway,” ในทางเดิน
she said, หล่อนพูด
handing him the pack. ส่งซองบุหรี่ให้เขา
 “Now, เอาละตอนนี้
if only I could find ก็เหลือแต่เพียงว่า ทำอย่างไรจะหา
my darling สุดที่รัก
pet chihuahua! หมากระเป๋าของชั้นเจอ
(Chihuahua ชิฮัวหัว คือหมาที่ขันทีในเมืองจีนเอามายำเป็นบอนไซ
ปกติแล้ว Chihuahua เป็นภาษาเม๊กซิกัน หมาพันธ์ที่เรียกกันว่า หมาถ้วยชา คนไทยเรียกว่าหมากระเป๋านี้ มีต้นกำเหนิดในเม๊กซิโก ต่อมาเมื่อ ค้าขายกับจีนก็ส่งไปถวายฮ่องเต้จีน บรรดา สนมทั้งหลายชอบมันมากตัวเล็กดีใส่ตระกร้าเดินเล่นได้  แต่ติว่าขนมันยาวไปหน่อย เลยส่งไปให้ขันทีแผนกดูแลบอนไซ จัดการหาวิธีกำจัดขน ผสมพันธ์ใหม่จนออกมาเรียกว่าหมาปักกิ่งขนเกรียนหมด ตอนใหม่ๆ พวกเม๊กซิกัน โวยหาว่าโดนลวกน้าถอนขน มันไม่ใช่ แต่เป็นการผสมพันธ์ จนได้พันธ์ใหม่ พวกขันทีจะหัวดีกว่าคนธรรมดาๆ เลยเรียกกันว่าพันธ์ปักกิ่งจนทุกวันนี้  )
...............................................







Thursday 29 October 2015

Obtion





Obtion อ๊อบชั่น คือ ทางเลือก ใช้ทั่วไปในทุกเรื่องไม่ว่าจะซื้อรถยนต์ยันไปถึงเล่นหุ้น
เรื่องนี้ ทําให้เราไม่ลืมศัพท์ Obtion เรามาดูว่า จริงๆแล้ว มันหมายถึงอะไรบ้างในเรื่องนี้ 
Short Menu 
ON a long-haul flight, the flight attendant
Asked a passenger whether he’d like his
In-flight dinner.
 “Hmmm, what are my options?”
the man asked.
The flight attendant answered curtly,
“Yes or no.”
………………………….
Short Menu เมนูสั้นๆ
ON a long-haul flight, ระหว่างเที่ยวบินระยะยาว 
( สายการบิน จะมี short- haul เที่ยวบินระยะสั้น,medium- haul เที่ยวบินปานกลาง ,long- haul เที่ยวบินระยะยาว , ultra long-haul เที่ยวบินระยาวมากๆ ultra อุลตร้า ในภาษาไทยนี่ก็คือสุดสุด )
the flight attendant  ไฟล๊ แอทเทนแด๊น ก็คือ แอร์โฮสเตสหรือสจ๊วต ในเรื่องนี้ น่าจะเป็นผู้หญิง
Asked a passenger ถามผู้โดยสาร
whether เวทเธ่อ เป็น ประโยคเชื่อมที่เป็นความคลางแคลงใจ 
he’d like ว่าเขาจะเอา
(ประโยคนี้ เต็มๆแล้ว จะเป็นแบบนี้  whether he would like his dinner or not ) 
his In-flight dinner. อาหารมื้อเย็นของเขา
 “Hmmm, อึมมม ศัพท์คํานี้แปลเป็นไทยว่า...ครุ่นคิด..ไม่ใช่แฮ่ใส่ แอร์โฮ๊สเตสนะ 
what are my options?” มีอะไรให้ผมเลือกได้มั๊ย
(อ๊อบชั่นของชายคนนี้หมายถึงเมนู หรือ
เลือกเอาว่าหมู เนื้อ ไก่ ปลา ทํานองนั้น ) 
the man asked. ชายคนนี้ถาม
The flight attendant พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 
answered curtly, ตอบอย่างไม่มีหางเสียง
“Yes or no.” จะเอาหรือไม่เอา
(options อ๊อบชั่นของสาวแอร์ ถ้าแปลเป็นความรู้สึกไทยๆคือ จะกินหรือไม่กิน นี่คือที่มาของคําว่า เมนูสั้นๆ )



Monday 26 October 2015

ศัพท์ที่ สอ เศรษฐบุตร ไปไม่ถึง

                ที่เขียนเรื่องนี้มาเพื่อเป็นตัวอย่างให้รู้ว่า ศัพท์ บางคํา ความหมายกว้างใกลมากเกินกว่าที่ พจนานุกรมไทยจะไปถึง ยกตัวอย่างเช่น คําว่า lateral ที่อ่านออกเสียงว่า แล๊ตเตอร์รัล ฟังให้ดีๆ มันจะคล้ายๆ literal หรือ literally  แต่ไม่เหมือนกัน.... ลิตชัวรัลลี่ ที่เป็นคําติดปาก เหมือนในภาษาไทยว่า จริงๆนะ หรือ จริงๆแล้ว ประเภทนั้น 
                คําว่า lateral ถ้าเราเปิดพจนานุกรม ของ ปู่สอ เราจะเห็นว่าแปลว่า ขวาง เกี่ยวกับด้านข้าง แค่นั้นนะ เวลาไปเจอที่อื่น เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะหมายความว่าอะไร ไม่มีอะไรมากกว่านี่ 
           ที่เอาเรื่องนี้มาเขียน ไม่ใช่ว่าจะทําให้ภาษาอังกฤษ ดูยากขึ้น เพราะว่าเราไม่ต้องไปจํามันหรือใช้มัน ปกติฝรั่งจะไม่ใช้กันเท่าใหร่ แค่อยากให้รู้ว่า ศัพท์บางคําไปอยู่ในที่ต่างกัน มันไม่ใช่ความหมายนั้นแล้ว  
           มาดูตัวอย่างเรื่องนี้กัน.....

Lateral thinking
 1. You are driving down the road in your car on a wild, stormy night, when you pass by a bus stop and you see three people waiting for the bus:
1. An old lady who looks as if she is about to die.
2. An old friend who once saved your life.
3. The perfect partner you have been dreaming about.
Knowing that there can only be one passenger in your car, whom would you choose?
.................................................................................
Lateral thinking แปลว่า คิดขวางโลกหรือ...น่าจะไม่ใช่นะ...น่าจะแปลว่า คิดนอกกรอบมากกว่า
 1. You are driving down the road in your car คุณกําลังขับรถของคุณไปตามถนน
on a wild, ไปในป่า ..ความจริงคือที่เปลี่ยวมากกว่า
 stormy night, ฝนก็ตกลมก็แรง เป็นคืนที่มีพายุจัด
when you pass by เมื่อคุณผ่าน
a bus stop ป้ายจอดรถเมล์ 
and you see แล้วคุณก็เห็น 
 three people คนสามคน
waiting for the bus: กําลังรอรถเมล์อยู่
1. An old lady คนหนึ่งเป็นหญิงชรา
who looks ผู้ซึ่งดูแล้ว
as if she is คล้ายๆว่า
about to die. กําลังจะตาย
2. An old friend เพื่อนเก่าของคุณ
who once saved your life. ซึ่งครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิตคุณไว้
3. The perfect partner สาวคู่ชีวิตที่เหมาะกับคุณ 
you have been dreaming about. ที่คุณฝันอยากได้มาตลอด
Knowing that รู้อยู่ว่า 
there can only be one passenger มีที่นั่งสําหรับผู้โดยสารแค่คนเดียว
 in your car, ในรถของคุณ
whom would you choose? คุณจะเลือกรับใคร
     ....ถ้าเป็นคุณ ต้องเลือกสาวเพอร์เฟคแน่ๆ อุตส่าห์รอมาตั้งนาน ส่วนยายแก่นั่นก็แล้วแต่เวรแต่กรรม...เพื่อนที่มีพระคุณดันจะมาทวงอะไรกันตอนนี้  
 Hint: You can make everyone happy. Your car can only contain one passenger, so whom should it be?
........................................................

Solution: The old lady of course! After helping the old lady into the car, you can give your keys to your friend, and wait with your perfect partner for the bus.
.....................................................................
Hint: ฮิ๊น แปลว่าบอกใบ้
You can make คุณสามารถทําให้
everyone happy. ทุกคนมีความสุขได้
Your car รถของคุณ
can only contain สามารถที่จะรับ (contain คอนเทน แปลว่าบันจุ) 
one passenger, ผู้โดยสารได้คนเดียว
so ด้วยเหตุนี้ 
whom should it be? ใครควรจะเป็นคนๆนั้น
.......................................................

Solution: โซลลูชั่น แปลว่า ไขปัญหา
The old lady ยายแก่
of course! แน่นอนอยุ่แล้ว
After helping หลังจากช่วย
the old lady ยายแก่
into the car, เข้าไปในรถ
 you can give คุณสามารถที่จะให้
your keys กุญแจของคุณ
to your friend, กับเพื่อน
 and wait แล้วก็รอ
with อยู่กับ
your perfect partner สาวเพอร์เฟคของคุณ
 for the bus. สําหรับรถเมล์ที่จะมาคันต่อไป
...........................................................

สรุปแล้ว Lateral thinking หมายถึง การคิดนอกกรอบ แต่สร้างสรรค์ เป็นความหมายที่ดี

      ถ้าเกี่ยวกับมวย Lateral Stability หมายถึงการถ่างขายืนให้มั่นคง หรือ การเต้นไปรอบทางด้านข้าง
      ถ้าเป็นทางการแพทย์ Lateral position คือท่านอนตะแคงข้าง ของคนป่วย
       เอาแค่นี้พอ เพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่าง 



Monday 19 October 2015

Reminiscence

  วันนี้มาคลายเครียดสนุกๆกับ เรื่องเบาๆ ฟังเพลงเก่าๆ ระลึกถึงความหลังเก่าๆ ที่ฝรั่งเรียกว่า Nostalgia น๊อสตั๊ลเจีย หรือ Reminiscence เรมมานิสซิ่น
         รู้ที่มาทีไป รวมทั้งศัพท์ภาษาอังกฤษเรียกว่าอ่านเรื่องนี้จบพูดภาษาอังกฤษได้ทันที ดีกว่าฝรั่ง ถ้าดูดกัญชาไปด้วย......
        เพลงหนึ่งในดวงใจ ของดิอิมพ๊อสซิเบิ๊ล ที่ร้องโดยเศรษฐา ศิริฉายา
         เพลงนี้ทําให้ เศรษฐา ได้แต่งงานกับอรัญญา นามวงค์ ว่ากันว่าเศรษฐาร้องเพลงนี้ทีไร อรัญญาต้องไปนั่งเฝ้า กลัวสาวอื่นจะมาแย่งไป
ลองเปิดฟังดูในยูทู๊ปดู

https://www.youtube.com/watch?v=8QUud3KVVIQ
ทํานองเพลงนี้มาจากเพลงนี้
https://www.youtube.com/watch?v=8or23xbQ2vw
         
One toke over the line  คําว่า toke โท๊ค นี่ คืออาการเอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งคีบกัญชาที่มวนด้วยมือ แล้วดูดพร้อมกับออกเสียงดังซี๊ด นั่นแหละที่เรียกว่า โท๊ค แตกต่างจากดูดบุหรีที่ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางคีบ แบบนั้นเรียกว่า    สโม๊ค ไม่ใช่โท๊ค ส่วนคําว่า
over the line โอเว่อร เดอะ ไลน์  
line ก็ย่อมาจาก railway line   รางรถไฟนั่นเอง คือไปนั่งดูดที่สถานีรถไฟ ไม่ใช่ไปยืนคร่อมรางแล้วซี๊ดนะ อย่าแปลผิด เมากัญชาแบบนั้นโดนรถไฟชนตาย
เพลงนี้ วัยรุ่นสมัยนี้ก็รู้จัก บางคนบอกว่า


My father, who was as anti-drugs as you can get, LOVED this song. He had no clue what it was really about.
Steve - Beechmont, Ky ชื่อวัยรุ่นมาจาก เคนตั๊กกี้ คนนั้นบอกว่า
My father, พ่อผม
who was as anti-drugs ที่เป็นคนเกลียดยาเสพย์ติด
as you can get, มากที่สุด
LOVED this song. รักเพลงนี้
He had no clue ทั้งๆที่แกไม่รู้
  what it was really about ว่าจริงๆแล้วมันหมายถึงอะไร
มีคําว่า sweet jesus นั่นก็คือแสลงที่เรียกกัญชา

 ก่อนจะไปต่อ ต้องทําความเข้าใจก่อนว่า เพลงนี้ โดนสั่งห้ามเปิดไปพักหนึ่ง ตอนออกมาใหม่ๆ เพราะเนื้อหา เกี่ยวกับกัญชาที่จัดอยู่ในประเภท ยาเสพย์ติด ในปี 1970 กัญชายังมีโทษร้ายแรง ในสหรัฐชื่อเพลงนี้ ถ้าแปลเป็นไทยๆ ก็เข้า ทํานองว่า " ขอกูซื๊ดอีกครั้งเดียวเท่านั้นกูจะเลิกแล้ว " ประเภทนั้น
     ในเพลง จะมีบอกว่า I am changing คือตอนนี้ ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะ ขอซื๊ดอีกครั้ง
ความหัวดี ของสองคนนี้ ต้องออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ ในสมัยนั้น แบบวาทะกรรม คือ one toke over the line หรือ ขอกูซี๊ดอีกครั้งเดียวเท่านั้น

     ในเพลง จะมีบอกว่า I am changing คือตอนนี้ ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะ ขอซื๊ดอีกครั้ง

     สรุปแล้ว เป็นสร้อยของเพลง ที่แปลว่า ขอกูอัดกัญชาเป็นครั้งสุดท้ายก็จะขึ้นรถไฟกลับบ้านแล้ว 

one toke over the line sweet jesus one toke over the line
แต่คนไทยเอามาแผลงว่า... หนึ่งในดวงใจคือเธอรักเธอยิ่ง แหวะใจดูยังได้
ตอนที่ เศรษฐาร้องเพลงนี้ ทุกครั้งจะส่งสายตามาให้ อรัญญาทุกครั้ง... สาวๆในสมัยนั้นไม่รู้ความหมายในภาษาอังกฤษ.....

sitting downtown นั่งอยู่ในเมือง
(downtown ดาวทาวน์ = Central Business District  หรือ CBD คือเขตธุรกิจ หรือกลางใจเมือง เมืองฝรั่งทุกเมืองจะมีสถานีรถไฟใต้ดินเต็มไปหมดทุกเมือง เพลงนี้ คือ ใจกลางเมือง ล๊อสแองเจลี๊ีส)


       เพลงนี้ เป็นเพลงที่ดังและทําเงินให้วง
Brewer and Shipley มากที่สุดเท่านั้น เพลงนอกนั้นคนไม่นิยมฟังกัน 
Brewer and Shipley ออกมาให้สัมภาษณ์ในทางที่ดีว่า


too much will kill you หมายถึงสอนเด็กวัยรุ่น ว่าดูดกัญชามากเกินไป มันจะ ฆ่าคุณได้ คือพูดเอาใจ สถานีวิทยุ ให้เปิดเพลงเผยแพร่ ว่างั้นเถอะ มีการใช้ศัพท์สูงคือ เอาศาสนามาเกี่ยวข้อง คือจิตวิญญาณของลัทธิกัญชานิยม  ที่เีรียกว่า cannabis spirituality ( cannabis แคนนาบิ๊ส คือชื่อหนึ่งของกัญชา spirituality สปีหริตชั๊ลลิตี้ คือจิตวิญญาณ ไปในรูปแบบศาสนาแบบนั้น)
แบบในรูปนี้ 





One toke over the line, sweet Jesus
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' หวังว่า

that the train รถไฟขบวนนี้
is on time ต้องมาตรงเวลา
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line 

Who do you love, เธอจะรักใคร
I hope it’s me ฉันหวังว่าคงเป็นฉันนะ


I've been changin', ฉันกำลังเปลี่ยนไป
as you can plainly see เธอก็เห็นชัดๆนะ
(plainly see = clearly see)
I felt the joy  ฉันเพลิดเพลินหลงระเริงไปกับมัน
and I learned ตอนนี้ฉันรู้แล้ว
about the pain ว่ามันเจ็บปวดแค่ใหน
that my momma said  เหมือนที่แม่เคยสอนไว้
If I should choose
ถ้าจะฉันเลือกมัน
to make a part of me, มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน
would surely แน่นอนว่า
strike me dead มันฆ่าฉันตายแน่ๆ

Now I'm ตอนนี้
one toke over the line sweet Jesus
One toke over the line
  ฉันแค่ขอซื๊ดมันครั้งสุดท้าย (จะเลิกแล้ว )

Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
I'm waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
( สร้อยเพลง )

I sail away ฉันลอยตุ๊บป่องๆไปในทะเลห่างบ้าน
a country mile    ในชนบทของเราไปใกลมาก
Now I'm returnin'
ตอนนี้ฉันกลับมาแว๊ว
showin' off a smile  จะมาฉีกยิ้ม อย่างภาคภูมิใจให้คนในหมู่บ้านเห็น
I met all the girls
ฉันเจอสาวๆมาแยะ
and loved myself a few แล้วก็รักตัวเองมากขึ้น ( กำลังคอมเพลนว่าเจอแต่สาวกะล่อน )
Ended by surprise
มันจบแบบน่าแปลกใจ (ในที่นี้คือจบไม่เหมือนเศรษฐา )
like everything else เหมือนอย่างอื่น
I've been through ที่ฉันเคยเจอมา
It opened up my eyes
มันทำให้ฉันตาสว่าง
and now I'm แล้วตอนนี้ฉันก็......แปลเองเพราะซํ้าๆ

One toke over the line, sweet Jesus
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Don't you know I'm just waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line


Don't you know I'm just waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
I wanna be one toke over the line, sweet Jesus
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Don't you know I'm just waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over line
One toke, one toke over the line


........................................................


















Thursday 15 October 2015

Deja blues

       Deja blues คือคําผันมาจาก Deja vu คําว่า เดจาวู  ต้นรากของคําศัพท์นี้ มาจากหมอผีชาวฝรั่งเศส หรือที่ฝรั่งเรียกว่า พวก psychic ไซขิก หรือ พวก Mystical Doctor มิสติคั่ล ด๊อกเต้อร์ หรือ พวกนั่งทางในแก้กรรมแบบไทยๆ  ( อาชีพสงวนของสิบแปดมงกุฏ ) มีการอธิบายยกตัวอย่างว่า สถานที่ๆคนเราไม่เคยไปมาก่อนเลย แต่พอไปถึงก็รู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยไปมาแล้ว หมอผี ฝรั่ง  ลงความเห็น น่าจะมาจากความฝัน  ส่วนหมอผีไทย  ลงความเห็นว่าเคยไปมาแล้วเมื่อชาติปางก่อน เอะอะอะไร ก็ชาติปางก่อนเอาไว้ก่อน เหมือนแทงไฮโล ปัดลงตํ่าหมดทุกครั้ง  ...แต่ว่า  ก็มีฝรั่งเอามาแผลง เป็น  เดจา บลู คําว่า blues นอกจากแปลว่าสี บลู แล้ว ยังแปลว่าเศร้า แต่ในเรื่องนี้ เศร้าอย่างเดียวไม่พอ ต้องแปลว่าซวยด้วยจึงจะเหมาะกับเรื่อง
       อ่านเรื่องนี้จบแล้ว ทุกอย่างจะโล่งไปหมด เกี่ยวกับความหมายไม่ว่าจะ Deja vu หรือ Deja blues
.........................................................

Deja blue
BILL’S wife decides to take him to a strip club as a special treat for his birthday. When they arrive, she’s shocked to hear the bouncer greet her hubby by name.
“Bill?” she enquires. “Have you been here before?”
“Oh no, honey. I know him from footy.” At the bar, the bartender grins at Bill and says, “Jim Beam and Coke no ice?”
Bill’s wife frowns. “How does she know what you drink?
 You’re really  telling me you haven’t been here before?”
“Cal
m down love. She also works behind the bar at the RSL.
 The boys and I always go there for a drink after footy.”
As soon as they sit down at a table, a gorgeous, busty stripper slides onto his lap and shoves her tits in his face.
“Billy!” she coos. “They’re playing our song! Want your usual lapdance?”

Hearing this, his wife chucks an enormous tanty, slams back her chair, stomps out of the club and makes a beeline for the taxi rank. She jumps into a cab and Bill follows, desperately trying to plead his case.
The cabbie turns around and says, “Geez Bill, are you ever going to stop picking up these crazy bitches?”
………………………………………………
Deja blue แผลงมาจาก Deja vu
Bill’s wife
เมียของบิล
Decides ตัดสินใจ
 to take him ที่จะพาเค้า
to a strip club ไปที่คลับระบำเปลื้องผ้า
as a special treat เพื่อเป็นการฉลองแบบพิเศษ
 for his birthday. สำหรับวันเกิดเขา
When they arrive, เมื่อทั้งคู่ไปถึง
she’s shocked  หล่อนรู้สึกตกใจ
 to hear the bouncer เมื่อได้ยิน รปภ ของคลับ
 greet her hubby ทักทายสามีเธอ
 by name. ด้วยชื่อ
“Bill?” she enquires.
บิล..หล่อนถาม
“Have you been here before?” เธอเคยมาที่นี่มาก่อนหรือไม่
“Oh no, honey.
โอ้..ไม่หรอกที่รัก
I know him from footy. ฉันรู้จักเขา ตอนไปเชียร์บอลด้วยกัน
( footy = football  )
” At the bar, ที่บาร์
 the bartender บารเทนเดอร์
 grins ยิ้ม
at Bill ให้บิล
and says, แล้วก็พูดว่า
 “Jim Beam จิมบีม
and Coke กับโค๊ก
 no ice?” ไม่ใส่น้าแข็ง
Bill’s wife frowns. ภรรยาของบิล หน้านิ่วคิ้วขมวด
( frowns  อ่านว่า ฟราวน์ แปลว่าหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่พอใจ )
“How does she know  เธอรู้ได้ไง
 what you drink?  ว่าคุณชอบดื่มอะไร
 You’re really  คุณแน่ใจนะ
telling me ว่าคุณกำลังบอกฉัน
you haven’t been here before?”  ว่าคุณไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลย
“Cal
m down love. ใจเย็นๆที่รัก
 She also works behind the bar  ผู้หญิงคนนี้ ทำงานเสริฟเหล้าเหมือนกัน
( works behind the bar ทำงานหลังเค้าน์เตอร์ขายเหล้า )
at the RSL. ที่คลับทหารผ่านศึก
 The boys and I ไอ้พวกนั้นกับฉัน
always go there มักจะไปที่นั่น
 for a drink หาอะไรดื่มกัน
after footy.” หลังจากการแข่งขันฟุตบอลล์จบ
As soon as
ไม่นานนักหลังจาก
(As soon as  possible แอ๊ซซูนแอ๊ส พอสซิเบิ๊ล แปลว่า ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ )
they sit down ที่พวกเขานั่งลง
 at a table, ที่โต๊ะ
 a gorgeous, สาวที่สวยน่าฟัด
 busty บ๊ะ ( อะไรๆก็ใหญ่ไปหมด)
stripper  นางระบำเปลื้องผ้า
 slides onto  ลื่นใหล
 his lap ลงไปนั่งที่ตักของเขา
 and shoves her tits  แล้วก็เอานม ฉวัดเฉวียนไปมา
in his face. ที่หน้าของเขา
“Billy!” she coos.
บิลลี่ หล่อนพึมพัมทำเสียงเซ๊กซี่
coos  คู คือเสียง นกพิราบ ที่มีเอสนั่นคือนาม  อี ชี อิฐ ต้องเติมเอส )
 “They’re playing our song! เขากำลังเปิดเพลงของเรานะ
 Want your usual lapdance?” เธอต้องการแลบแดนซ์ แบบเก่าที่เธอชอบมั๊ย

Hearing this,
ได้ยินแบบนี้
his wife ภรรยา
chucks an enormous tanty, ถีงกับชักดิ้นชักงอขนาดหนัก
(chucks ชัก แปลว่าโยนทิ้ง  enormous อี นอ มั๊ส แปลว่า มหึมา ขนาดใหญ่ ในที่นี้คือ ขนาดหนัก tanty แตนตี้ แผลงมาจาก trantrum แตนตรั้ม ที่แปลว่าชักดิ้นชักงอ   )
slams back her chair, ทุ่มเก้าอี้ไปข้างหลัง
(slam  the door แปลว่าปิดประตู ดังปัง )
 stomps out กระทืบเท้าเดินออก
of  the club มาจากคลับ
 and makes a beeline  แล้วก็เดินตรง
( beeline บีไลน์ แปลว่า ทางเดินของผึ้ง ตรงจากจุดหนึ่งตรงไปอีกจุดหนึ่ง ไม่เลี้ยว )
 for the taxi rank. ไปที่คิวแท๊กซี่
She jumps into a cab หล่อนกระโจนเข้าไปในแท๊กซี่
and Bill follows, ไอ้บิลตามมาติดๆ
 desperately trying พยายามแบบไม่คิดชีวิต
to plead his case. ที่จะ ชี้แจงคดีของเขา
(plead พลี แปลว่าชี้ สองสถาน คือ plead guilty  พลีกิ๊ลตี้ แปลว่า รับผิดทุกประตู plead not guilty  พลี น๊อต กิ๊ลตี้ แปลว่า ปฏิเสธ ..สำหรับไอ้บิลนี่ น่าจะเป็น  plead guilty with reason คือรับผิดแบบมีเหตุผล คือไม่เจตนา)

The cabbie turns around
คนขับรถแท๊กซี่ หันมา
 and says,แล้วก็พูดว่า
 “Geez Bill, กูละเบื่อมึงจริงๆไอ้บิล
(Geez ย่อมาจาก จีซัส ไคร๊ส)
are you ever going to stop  เมื่อใหร่มึงจะเลิก
 picking up หิ้ว
these crazy bitches?” ผู้หญิงดอกทองงี่เง่าพวกนี้ซะที
………………………………………………