Saturday 29 August 2015

boogeyman










Blonde bogey
A BLONDE went to see a psychiatrist ‘cos she was scared of bogeymen living under her bed.
“I think you’ll need intensive therapy if you’re a grown woman and still believe in bogeymen!” the shrink told her. “I can help you, but it’ll cost $100 per hour.”
The blonde said she’d go home and think about it. The next day, she came back to the shrink’s office, saying she didn’t require his services.
“The problem’s gone!” she announced happily. “I don’t believe bogeymen will get me anymore and I didn’t even need your silly therapy!”
The shrink was surprised. “How did you manage to cure yourself?”
The blonde confided, “Easy! I chopped the legs off the bed.”
.......................................................................................

           เรื่องราวของบูกี้แมน คือเรื่องราวที่ประจานนิสัยไม่ดีของคนโบราณไม่ว่าไทยหรือฝรั่ง ที่ชอบหลอกเด็กจนกลัวผีเป็นบ้าเป็นหลัง เด็กหลายคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นโรคจิตที่ติดมาจากโดนหลอกตอนเด็กๆ ว่าผีมีจริง หลายคนเป็นโรคประสาท สาวๆบางคน ตอนยังสวยน่ารัก เวลาเข้าห้องนํ้าต้องเปิดประตูให้แฟนนั่งเฝ้าหน้าห้อง เพราะกลัวผีหรือบูกี้แมน มันก็น่ารักนะตอนยังสวยอยู่ โรแมนติกดี ที่หย่าร้างกันมากมาย บูกี้แมนมีส่วนก็มาก boogeyman = bugaboo อ่านว่า   บิ๊กกาบู้ ที่แปลว่า ตั๊บแก้ ของคนไทย หรือ หลอกเด็กว่านอนซะเดี๋ยวตุ๊กแกจะมากินตับ ประมาณนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทําอย่างยิ่งเพราะผีในโลกนี้ไม่มีจริง มีแต่ปีศาจร้ายในร่างคน นั่นแหละมีจริง  

Blonde bogey บลอนด์ โบกี้ ชนะไม้ที่สี่ของการตีก๊อฟ เป็นเมตาฟอร์ หรืออุปมาอุปมัยว่า สาวผมบลอนด์ไม่โง่นะ  bogey = one stroke over par คือการตีก๊อฟ เค้าให้ตีสามครั้งลงหลุมเรียกว่า par หรือ พา ถ้าสี่ครั้งลงหลุม ก็เรียกว่า โบกี้ 

A BLONDE สาวผมบลอนด์คนหนึ่ง
went to see ไปพบ
a psychiatrist จิตแพทย์
‘cos she was scared of สาเหตุมาจากโรคประสาทหลอนกลัว
 ( scared of =  สะแก แปลว่ากลัว อ๊อฟ แปลว่ากลัวอะไร scared of dog ก็คือกลัวหมา 
bogeymen ผี หรือ ตัวประหลาด
 living ที่อาศัยอยู่
under her bed. ใต้เตียงของเธอ
“I think ผมคิดว่า
you’ll need คุณต้องการ
intensive therapy การรักษาขั้นสูง 

therapy เทราปี้ คือการรักษา intensive อินเทนสีบ = concentrate คอนเซ็นเตรต อย่างใช้สมาธิจดจ่อ concentrate on what you doing แปลว่าตั้งสมาธิให้ดีว่าคุณกําลังทําอะไรอยู่

if you’re ถ้าหากว่าคุณเป็น (if you’re = if you are ) 
a grown woman สาวใหญ่ขนาดนี้ 
and still believe in แล้วยังงมงายในเรื่อง
  bogeymen!” ไอ้บูกี้แมนนี่
the shrink told her. คุณหมอบอก ( shrink  ชริ๊งค์ เป็นแลง ของ  psychiatrist ไซคายแอ๊สตริ๊ส หรือ หมอ ศรีธัญญา 

“I can help you, ผมช่วยคุณได้นะ
 but it’ll cost $100 per hour.” แต่ว่าราคาร้อยเหรียญต่อชั่วโมงนะ
The blonde said สาวผมบลอนด์บอกว่า

she’d go home หล่อนจะกลับบ้าน
and think about it. และขอคิดดูก่อน

The next day, วันต่อมา
she came back หล่อนกลับมา
to the shrink’s office, ที่ร้านหมอ
saying บอกว่า
she didn’t require เธอไม่ต้องการ (didn’t require = did not want to  ) 
 his services. . ใช้บริการของเขา
“The problem’s gone!” ปัญหาหมดไปแล้ว
she announced happily. หล่อนแถลงการณ์อย่างมีความสุข
 “I don’t believe bogeymen ฉันไม่เชื่อเรื่องบูกี้แมน
will get me anymore จะมาเล่นงานฉันอีกแล้ว
and I didn’t even need และแม้กระทั่ง
 your silly therapy!” วิธีรักษาบ้าๆบอๆของคุณ
The shrink คุณหมอ
was surprised. งงมาก
“How did you manage to คุณทําอย่างไร ( = how did you do ) 
 cure yourself?” ที่รักษาด้วยตัวเองได้
The blonde confided, สาวผมบลอนด์ พูดออกมาอย่างมั่นใจ
  ( confided คอนฟายดิด = confident คอนฟิเด้นท์ แปลว่า มั่นใจ
“Easy! กล้วยมาก
 I chopped the legs ฉันตัดขาเตียงทั้งหมด
 off the bed.” ออกจากเตียง 
(งานนี้ บูกี้แมนโดนฆาตกรรม เตียงทับขี้แตกตาย ) 
.......................................................................................

            ผมหายไปหลายวัน น่าจะมาจากเบื่อพิมพ์ หรือหาเรื่องมาให้ บางครั้งก็ยุ่งเรื่องอื่น  ถ้ามีคนช่วยเอาวัตถุดิบมาป้อนให้ งานหนักจะเบาลง การเรียนภาษาอังกฤษแบบรากหญ้าแบบนี้ เหมือนในต่างประเทศ เด็กยังไม่ได้เข้าโรงเรียน สามารถพูดถูกไวยากือ ได้เพราะ ไม่รู้จักมันเลยไม่กลัวมัน เด็กไทยคนไทยโดนพวกชนชั้นสูงมันหลอกโยนไวยากือให้จนโดดหนีไม่ทัน กลัวไปหมด แม้กระทั่งดัดจริตพูดให้เหมือนฝรั่ง ก็ยังมีปัญหา ... นี่ถ้าไม่มี คนสองสามคนที่เห็นคุณค่าป่านนี้ผมท้อไปแล้ว อาจจะทิ้งก็ได้ เพราะฝืนนํ้าเน่าไม่ใหว 



No comments:

Post a Comment