วันนี้มาคลายเครียดสนุกๆกับ เรื่องเบาๆ
ฟังเพลงเก่าๆ ระลึกถึงความหลังเก่าๆ ที่ฝรั่งเรียกว่า Nostalgia
น๊อสตั๊ลเจีย
หรือ Reminiscence เรมมานิสซิ่น
รู้ที่มาทีไป
รวมทั้งศัพท์ภาษาอังกฤษเรียกว่าอ่านเรื่องนี้จบพูดภาษาอังกฤษได้ทันที ดีกว่าฝรั่ง ถ้าดูดกัญชาไปด้วย......
เพลงหนึ่งในดวงใจ
ของดิอิมพ๊อสซิเบิ๊ล ที่ร้องโดยเศรษฐา ศิริฉายา
เพลงนี้ทําให้
เศรษฐา ได้แต่งงานกับอรัญญา นามวงค์ ว่ากันว่าเศรษฐาร้องเพลงนี้ทีไร
อรัญญาต้องไปนั่งเฝ้า กลัวสาวอื่นจะมาแย่งไป
ลองเปิดฟังดูในยูทู๊ปดู
https://www.youtube.com/watch?v=8QUud3KVVIQ
ทํานองเพลงนี้มาจากเพลงนี้
https://www.youtube.com/watch?v=8or23xbQ2vw
https://www.youtube.com/watch?v=8or23xbQ2vw
One toke
over the line คําว่า
toke โท๊ค นี่
คืออาการเอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งคีบกัญชาที่มวนด้วยมือ
แล้วดูดพร้อมกับออกเสียงดังซี๊ด นั่นแหละที่เรียกว่า โท๊ค
แตกต่างจากดูดบุหรีที่ใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางคีบ แบบนั้นเรียกว่า
สโม๊ค ไม่ใช่โท๊ค ส่วนคําว่า
over the
line โอเว่อร เดอะ ไลน์
line ก็ย่อมาจาก railway
line รางรถไฟนั่นเอง คือไปนั่งดูดที่สถานีรถไฟ
ไม่ใช่ไปยืนคร่อมรางแล้วซี๊ดนะ อย่าแปลผิด เมากัญชาแบบนั้นโดนรถไฟชนตาย
เพลงนี้ วัยรุ่นสมัยนี้ก็รู้จัก
บางคนบอกว่า
My
father, who was as anti-drugs as you can get, LOVED this song. He had no clue
what it was really about.
Steve -
Beechmont, Ky ชื่อวัยรุ่นมาจาก
เคนตั๊กกี้ คนนั้นบอกว่า
My father, พ่อผม
My father, พ่อผม
who
was as anti-drugs ที่เป็นคนเกลียดยาเสพย์ติด
as you can get, มากที่สุด
LOVED this song. รักเพลงนี้
He had no clue ทั้งๆที่แกไม่รู้
what it was really about ว่าจริงๆแล้วมันหมายถึงอะไร
มีคําว่า sweet jesus นั่นก็คือแสลงที่เรียกกัญชา
as you can get, มากที่สุด
LOVED this song. รักเพลงนี้
He had no clue ทั้งๆที่แกไม่รู้
what it was really about ว่าจริงๆแล้วมันหมายถึงอะไร
มีคําว่า sweet jesus นั่นก็คือแสลงที่เรียกกัญชา
ก่อนจะไปต่อ ต้องทําความเข้าใจก่อนว่า เพลงนี้ โดนสั่งห้ามเปิดไปพักหนึ่ง
ตอนออกมาใหม่ๆ เพราะเนื้อหา เกี่ยวกับกัญชาที่จัดอยู่ในประเภท ยาเสพย์ติด ในปี 1970 กัญชายังมีโทษร้ายแรง ในสหรัฐชื่อเพลงนี้ ถ้าแปลเป็นไทยๆ ก็เข้า ทํานองว่า "
ขอกูซื๊ดอีกครั้งเดียวเท่านั้นกูจะเลิกแล้ว " ประเภทนั้น
ในเพลง จะมีบอกว่า I am
changing คือตอนนี้
ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะ ขอซื๊ดอีกครั้ง
ความหัวดี ของสองคนนี้
ต้องออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ ในสมัยนั้น แบบวาทะกรรม คือ one toke over the
line หรือ
ขอกูซี๊ดอีกครั้งเดียวเท่านั้น
ในเพลง จะมีบอกว่า I am
changing คือตอนนี้
ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะ ขอซื๊ดอีกครั้ง
สรุปแล้ว เป็นสร้อยของเพลง ที่แปลว่า
ขอกูอัดกัญชาเป็นครั้งสุดท้ายก็จะขึ้นรถไฟกลับบ้านแล้ว
one toke over the line sweet jesus one toke
over the line
แต่คนไทยเอามาแผลงว่า... หนึ่งในดวงใจคือเธอรักเธอยิ่ง แหวะใจดูยังได้
ตอนที่ เศรษฐาร้องเพลงนี้ ทุกครั้งจะส่งสายตามาให้ อรัญญาทุกครั้ง... สาวๆในสมัยนั้นไม่รู้ความหมายในภาษาอังกฤษ.....
แต่คนไทยเอามาแผลงว่า... หนึ่งในดวงใจคือเธอรักเธอยิ่ง แหวะใจดูยังได้
ตอนที่ เศรษฐาร้องเพลงนี้ ทุกครั้งจะส่งสายตามาให้ อรัญญาทุกครั้ง... สาวๆในสมัยนั้นไม่รู้ความหมายในภาษาอังกฤษ.....
sitting downtown นั่งอยู่ในเมือง
(downtown ดาวทาวน์ = Central
Business District หรือ CBD คือเขตธุรกิจ หรือกลางใจเมือง
เมืองฝรั่งทุกเมืองจะมีสถานีรถไฟใต้ดินเต็มไปหมดทุกเมือง เพลงนี้ คือ ใจกลางเมือง
ล๊อสแองเจลี๊ีส)
เพลงนี้
เป็นเพลงที่ดังและทําเงินให้วง
Brewer and Shipley มากที่สุดเท่านั้น
เพลงนอกนั้นคนไม่นิยมฟังกัน
Brewer and Shipley ออกมาให้สัมภาษณ์ในทางที่ดีว่า
too much will kill you หมายถึงสอนเด็กวัยรุ่น
ว่าดูดกัญชามากเกินไป มันจะ ฆ่าคุณได้ คือพูดเอาใจ สถานีวิทยุ
ให้เปิดเพลงเผยแพร่ ว่างั้นเถอะ มีการใช้ศัพท์สูงคือ เอาศาสนามาเกี่ยวข้อง
คือจิตวิญญาณของลัทธิกัญชานิยม ที่เีรียกว่า cannabis spirituality ( cannabis แคนนาบิ๊ส คือชื่อหนึ่งของกัญชา spirituality สปีหริตชั๊ลลิตี้ คือจิตวิญญาณ ไปในรูปแบบศาสนาแบบนั้น)
แบบในรูปนี้
แบบในรูปนี้
One toke over the line,
sweet Jesus
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Waitin' for the train that goes home
sweet Mary
Hopin' หวังว่า
that the train รถไฟขบวนนี้
is on time ต้องมาตรงเวลา
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Hopin' หวังว่า
that the train รถไฟขบวนนี้
is on time ต้องมาตรงเวลา
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Who do you love, เธอจะรักใคร
I hope it’s me ฉันหวังว่าคงเป็นฉันนะ
I've been changin', ฉันกำลังเปลี่ยนไป
as you can plainly see เธอก็เห็นชัดๆนะ
(plainly see = clearly see)
I felt the joy ฉันเพลิดเพลินหลงระเริงไปกับมัน
I felt the joy ฉันเพลิดเพลินหลงระเริงไปกับมัน
and I learned ตอนนี้ฉันรู้แล้ว
about the pain ว่ามันเจ็บปวดแค่ใหน
that my momma said เหมือนที่แม่เคยสอนไว้
If I should choose ถ้าจะฉันเลือกมัน
If I should choose ถ้าจะฉันเลือกมัน
to make a part of me, มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน
would surely แน่นอนว่า
strike me dead มันฆ่าฉันตายแน่ๆ
Now I'm ตอนนี้
one toke over the line sweet Jesus
One toke over the line ฉันแค่ขอซื๊ดมันครั้งสุดท้าย (จะเลิกแล้ว )
One toke over the line ฉันแค่ขอซื๊ดมันครั้งสุดท้าย (จะเลิกแล้ว )
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
I'm waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line ( สร้อยเพลง )
One toke over the line
I'm waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line ( สร้อยเพลง )
I sail away ฉันลอยตุ๊บป่องๆไปในทะเลห่างบ้าน
a country mile ในชนบทของเราไปใกลมาก
Now I'm returnin' ตอนนี้ฉันกลับมาแว๊ว
Now I'm returnin' ตอนนี้ฉันกลับมาแว๊ว
showin' off a smile จะมาฉีกยิ้ม อย่างภาคภูมิใจให้คนในหมู่บ้านเห็น
I met all the girls ฉันเจอสาวๆมาแยะ
I met all the girls ฉันเจอสาวๆมาแยะ
and loved myself a few แล้วก็รักตัวเองมากขึ้น
( กำลังคอมเพลนว่าเจอแต่สาวกะล่อน )
Ended by surprise มันจบแบบน่าแปลกใจ (ในที่นี้คือจบไม่เหมือนเศรษฐา )
Ended by surprise มันจบแบบน่าแปลกใจ (ในที่นี้คือจบไม่เหมือนเศรษฐา )
like everything else เหมือนอย่างอื่น
I've been through ที่ฉันเคยเจอมา
It opened up my eyes มันทำให้ฉันตาสว่าง
It opened up my eyes มันทำให้ฉันตาสว่าง
and now I'm แล้วตอนนี้ฉันก็......แปลเองเพราะซํ้าๆ
One toke over the line, sweet Jesus
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Don't you know I'm just waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Don't you know I'm just waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Don't you know I'm just waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
I wanna be one toke over the line, sweet Jesus
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Don't you know I'm just waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over line
One toke, one toke over the line
........................................................
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
I wanna be one toke over the line, sweet Jesus
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Don't you know I'm just waitin' for the train that goes home sweet Mary
Hopin' that the train is on time
Sittin' downtown in a railway station
One toke over the line
Sittin' downtown in a railway station
One toke over line
One toke, one toke over the line
........................................................
No comments:
Post a Comment