Friday, 10 April 2015

เกาเหลา


โจ๊กเรื่องต่อไปนี้ ผมวางไว้ตอนอี๊สเตอร์ แต่ก็บังเอิญติดงาน ตอนนี้ก็สายไปนิดหน่อย แต่ว่า  คนที่จะอ่านต้องรู้เรื่องนี้ก่อน

What does a rabbit have to do with Easter?

Answer: There are several variations of the story of the origins of the Easter Rabbit or the Easter Bunny, or perhaps more correctly, the Easter Hare. The hare was  associated with the Pagan festival celebrating the goddess Eostre (also known as Eastre or Ostara), from which the word Easter is derived. Eostre's earthly symbol was the hare or rabbit. The hare is also symbolically associated with the moon.

...............................................................................................................

Easter คือวันที่พระเยซู ฟื้นขึ้นมาจากความตาย จากการที่โดนทหารโรมันจับตรึงไม้กางเขนจนตาย แล้วก็ให้ญาติเอาไปฝังในถ้า ปรากฏว่าสามวันก็หาศพไม่เจอ แต่มีทูตสวรค์ มาบอกว่า ท่านฟื้นแล้ว ตอนนี้เดินทางไป กาลิลี่ ศานุศิษย์ ไปรอเจอที่นั่นได้ เรื่องนี้ คนพอรู้กัน แต่เรื่องที่ไม่เข้าใจคือ กระต่ายมาเกี่ยวอะไรด้วย ทั้งๆที่วันนั้น วันที่พระเยซู ฟื้นขึ้นมา กระต่ายก็ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ  ก็เลยถามมา

 

What does a rabbit อะไร คือสาเหตุที่กระต่าย

 have to do มาเกี่ยวข้อง

with Easter? กับอีสเตอร์

Answer: คำตอบ

 There are รู้สึกว่าจะมี

several variations of the story เรื่องที่คนเล่าขานกันไปต่างๆนาๆสองสามเรื่อง ( variations ตรงกับภาษาไทยว่าต่างๆนาๆ )

 of the origins  ถึงที่มา

of the Easter Rabbit ของกระต่ายอี๊สเตอร์

or the Easter Bunny, หรือ อิสเตอร์ บันนี่ (Bunny เป็นภาษาเด็กที่เรียกกระต่าย แต่สำหรับผู้ใหญ่ ใช้เรียกสาวๆ ที่แต่งตัว เหมือนกระต่ายเซ๊กซี่ เห็นแล้ว เนื้อแข็งเป็นกระดูก แบบในนิตยสารเพลย์บอย  )

 or perhaps หรือจะว่ากันไปแล้ว

more correctly, ที่ถูกต้องกว่า

the Easter Hare. คือ อิ๊สเตอร์ แฮร์ (Hare คือสัตว์เหมือนกระต่ายแต่ตัวใหญ่กว่ากระต่ายมาก)

The hare was ไอ้แฮร์ หรือกระต่ายตัวใหญ่เนี๊ยะ

associated มีส่วนเกี่ยวข้อง

with the Pagan festival กับ อีเว้นต์ ของพวก ปาก้าน (Pagan คือพวกนับถือเทวดาสารพัด ต้นม๊งต้นไม้เจอใหว้หมด สมัยนั้นก็เริ่มนับถือคริสต์บ้างเล็กน้อย แต่หนักไปทางเทวดา )  (festival = event หรือ งานเฉลิมฉลองที่จัดเป็นครั้งคราว )

 celebrating เฉลิมพระเกียรติ

the goddess Eostre  เจ้าแม่ อี๊สเตอร์ ( ออกเสียงอี๊สเตอร์)

(also known as Eastre or Ostara), แล้วก็ยังรู้กันว่า เป็นคนๆเดียวกับ อี๊สเตอร์ หรือ อ๊อสตาร่า)

from which ต้นตอ

the word Easter ของคำว่าอี๊สเตอร์

 is derived. มาจากนี่

Eostre's earthly symbol สัญลักษณ์ของ เจ้าแม่ อิ๊สเตอร์ ในทางโลก

was the hare or rabbit. คือแฮร์ หรือ กระต่าย

 The hare  เจ้าแฮร์นี่

 is also ยังเป็น

symbolically associated สัญลักษณ์ เกี่ยวพันกัน

with the moon.  กับดวงจันทร์

..................................................................

 

 WIFE STRIFE  
             A man and his ever-nagging wife went on vacation to
Jerusalem. While they were there, the wife passed away. The undertaker told the husband, “You can have her shipped home for $5000, or
you can bury her here for $150.”

             The man thought about it and told him he would just have her shipped home.
                 The undertaker asked, “Why would you spend $5000 to ship your wife home, when it would be wonderful to be buried here and you would spend only $150?”
                          The man replied, “Long time ago a man died here, was buried here, and three days later he rose from the dead.

 I just can’t take that chance.”

.........................................................................


WIFE STRIFE  
เกาเหลากับเมีย (STRIFE แปลว่าไม่ลงรอยกันหรือไม่กินเส้นกัน)
             A man
กระทาชายนายหนึ่ง

 and his ever-nagging wife พร้อมกับศรีภรรยาที่สุดยอดงี่เง่า (ever-nagging แปลว่าสุดยอดงี่เง่า)

 went on vacation ไปพักร้อน

 to Jerusalem. ที่เยรูซาเร็ม

 

While they were there, ตอนที่อยู่กันที่นั่น

 the wife passed away. เมียก็ตาย ( passed away แปลว่าไปแล้วไปลับ เหมือนกับที่สัปเหร่อเขียนกันตามป่าช้าในเมืองไทย )

The undertaker สัปเหร่อ

 told the husband, บอกกับสามีว่า

“You can have her คุณสามารถที่จะเอาเธอ

shipped home ส่งกลับบ้านได้ (น่าจะเป็น ใส่ตู้คอนเทนเน่อร์ลงเรือ)

for $5000, ในราคา ห้าพันเหรียญ

or you can หรือว่าคุณสามารถที่จะ

 bury her here ฝังเธอที่นี่

for $150.” แค่ร้อยห้าสิบเหรียญ

             The man thought about it  กระทาชายนายคนนี้ ก็ใช้สมองครุ่นคิด

and told him และแล้วก็บอกสัปเหร่อว่า

he would just have her เขาต้องการส่งเธอ

shipped home. ลงเรือกลับบ้าน
                 The undertaker asked,
สัปเหร่อถามว่า

 “Why would you ทำใมคุณต้อง

spend $5000  ใช้เงินห้าพันบาท

to ship your wife home, ส่งเมียคุณกลับบ้าน

when it would be ในเมื่อมัน

wonderful  แจ๋วกว่า

to be buried here ที่จะฝังที่นี่

and you would spend แล้วก็ใช้เงิน

only $150?” แค่ร้อยห้าสิบเหรียญ
                          The man replied,
ชายคนนั้นตอบว่า

“Long time ago เรื่องมันนานมาแล้ว

 a man died here, มีชายคนหนึ่งตายที่นี่

was buried here, แล้วก็ฝังที่นี่

and three days later แล้วก็สามวันต่อมา

 he rose เขาก็ฟื้น

from the dead. จากความตาย

 I just can’t take that chance.” ผมเพียงแค่ไม่อยากเสี่ยงเท่านั้น

.........................................................................


 

 

 

No comments:

Post a Comment