Friday, 15 December 2017

Kidding around

เรื่องนี้คือ หนึ่งในหลายๆตัวอย่างของคําถามที่ว่าทําใมคนไทยเรียนภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง เรื่องนี้แม้แต่อาจารย์ที่จบปริญญาเอกของ มหาวิทยาลัยต่างๆในเมืองไทย ก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจ หรือพยายามที่จะเข้าใจ เพราะความหมายมันลึกซึ๊งเกินที่อาจารย์พวกนี้จะรู้เรื่อง ทั้งที่ศัพท์ก็ง่ายๆ ลองอ่านดู ถ้าคุณเข้าใจ แสดงว่าคุณเก่งกว่าอาจารย์พวกนั้น
Kidding around
A woman walks into a Social Service office with 15 kids in tow.
‘Wow!’ the social worker exclaims. ‘Are they all yours”
Yeah,’ sighs the mother, having heard the question a thousand times before. She says. Sit down, Terry.’
The children rush to find seats.
Well, says the social worker, ‘I’ll need all of your childrens names
‘This ones my oldest — he’s Terry. And this is my youngest — she’s Teri.’
The social worker raises an eyebrow but continues writing ‘And here we have Terry and Teri.
All right! interrupts the social worker. I think I’m seeing a pattern. Are they all named Terri or Terry?’
‘Yes.’ says the mother ‘It makes my life easier. When it’s  time to get them out of bed and ready for  school, I yell, Terry! And when it’s time for dinner, I just yell Teri and they all come. And if I need to stop the kid who’s running into the street, I just yell ‘Terry!’ and they all stop.”
The social worker thinks this over, then wrinkles her forehead and says tentatively, “But what if you just want one kid to come, and not the whole bunch?”
“Then I use their surnames.”
...............................................
Kidding around
คิดดิ๊ง กับ โจ๊กกิ๊ง เหมือนกันคือล้อเล่น แต่ในเรื่องนี้ หมายถึงเด็กๆเต็มไปหมด เป็นการใช้ภาษาแบบ เล่นลิ้น
A woman
ผู้หญิงคนหนึ่ง
walks into เดินเข้าไปใน
a Social Service office สำนักงานบริการสังคม หรือสำนักงานผดุงความมั่นคงครอบครัวของประชาชน
with 15 kids in tow. พร้อมกับเด็กๆสิบห้า เดินตามกันเป็นงูกินหาง ( tow แปลว่าลากจูง ดูรูป tow truck)
‘Wow!’ โอ้โฮ
the social worker พนักงานผดุงสังคม
exclaims. อุทานขึ้นมา
‘Are they all yours” ทั้งหมดนี่เป็นลูกคุณทั้งนั้นเลยใช่มั๊ย
Yeah,’
ใช่แล้ว
sighs the mother, คุณแม่ถอนหายใจ
having heard จากการได้ยิน
the question คำถามแบบนี้มา
a thousand times นับเป็นพันๆครั้ง
before.มาแล้ว
 She says. หล่อนบอกว่า
Sit down, นั่งลง
Terry.’ เทอรรี่
The children rush
เด็กๆต่างก็รีบ
to find seats. วิ่งหาที่นั่ง
Well,
เอาละ
says the social worker,พนักงานบริการสังคมบอก
 ‘I’ll need ฉันต้องการ
all of your childrens names รายชื่อเด็กของคุณทุกคน
‘This ones my oldest
คนนี้คนที่โตที่สุดของฉัน
 — he’s Terry. แกชื่อ เทอรรี่
And this is และคนนี้
my youngest คนที่เล็กที่สุดของฉัน
— she’s Teri.’ เธอชื่อ เทอริ
The social worker
พนักงานบริการสังคม
 raises an eyebrow ขมวดคิ้วอย่างงุนงง
 but continues writing แต่ก็ยังเขียนต่อไปเรื่อยๆ
 ‘And here แล้วนี่
we have เรามี
Terry and Teri. เทอรี่ กับเทอริ
All right!
เอาละ
interrupts the social worker.พนักงานบริการสังคมพูดขึ้น
 I think ผมคิดว่า
I’m seeing a pattern.ผมพอจะเห็นรูปแบบแล้ว
 Are they all ทั้งหมดนี้
named ชื่อ
Terri or Terry?’ เทอริ หรือ เทอรี่
‘Yes.’
ใช่แล้ว
says the mother คุณแม่พูด
‘It makes my life มันทำให้ชีวิตฉัน
easier. ง่ายขึ้น
When it’s  time ตอนที่จะ
to get them เอาพวกเค้า ( ปลุกให้ตื่น)
out of bed ออกจากเตียง
and ready for  school,แล้วก็พร้อมที่จะไปโรงเรียน
 I yell, ฉันก็ตะโกนว่า
Terry! เทอรี่
And when it’s time แล้วก็ตอนที่ถึงเวลา
for dinner, อาหารเย็น
 I just yell ฉันก็เพียงแค่ตะโกน
Teri เทอรริ
and they all come. ทุกคนก็จะมา
And if และถ้าหาก
I need to stop ฉันต้องการหยุด
 the kid เด็ก
who’s running ที่กำลังวิ่ง
into the street, ลงไปที่ถนน
 I just yell ฉันก็เพียงแค่ตะโกน
‘Terry!’ เทอรรี่
and they all stop.” แล้วทุกคนก็จะหยุด
The social worker
พนักงานบริการสังคม
 thinks this over, คิดไปคิดมา
 then จนกระทั่ง
wrinkles her forehead หน้าผากเธอย่น
and says แล้วก็พูดแบบ
 tentatively, ลังเล ไม่แน่ใจ

“But what if you ถ้าหากว่าคุณ
just want ต้องการแค่
one kid to come, เด็กคนเดียวให้มาหา
and not แล้วก็ไม่ใช่
 the whole bunch?” ทั้งขโยง
“Then
ถ้าเป็นอย่างงั้น
I use their surnames.” ฉันก็เรียกนามสกุลเขา
...............................................
 ผู้หญิงคนนี้ พาลูกๆไปสํานักงานบริการสังคม เพื่อจัดการเกี่ยวกับเงินเดือนเด็ก ตามกฏหมายสากลสหประชาชาติ ประเทศใหนที่เด็กไม่มีเงินเดือนกิน จะถูกนานาชาติเหยียดหยามให้ตํ่าต้อย ไม่มีเกียรติในสังคมโลก ฝรั่งจะเรียกว่า Third world country.หรือโลกที่สามที่สี่ ประเภทนั้น อย่างที่คนไทยเรียกว่ากะลาแลนด์ 
      ต่างประเทศ เด็กมีเงินเดือนกินทุกคนตั้งแต่เกิด ที่เรียกว่า Child Benefit หรือเงินส่วนแบ่งผลประโยชน์เด็กจากภาษีที่รัฐบาลเก็บไป เงินพวกนี้ หมาคาบไปแดกหมด
      ..คําศัพท์คํานี้ คนไทยไม่มี นอกจากคํานี้ ยังมีคําศัพท์อีกมากมาย ที่คนไทย เรียนไม่ได้ มันไม่ให้เรียน ดังนั้นต่อให้เป็นอาจารย์อะไรในเมืองไทยก็สอนคนไทยให้รู้ภาษาอังกฤษไม่ได้ นอกเหนือจากโดนกลั่นแกล้งวางยาจากชนชั้นสูงที่ไม่ต้องการให้เรารู้ภาษาอังกฤษลึกซึ๊ง มันต้องการให้รู้ แค่กูๆกาๆ แบบ One car come one car go, two car garden, two car โครม...ประเภทนั้น  






Twin signs


 Twin signs
Greg was dating twins and couldn’t stop bragging at the pub.
His envious mates peppered him with loads of filthy questions.
One fella asked. ‘How do you tell them apart? Breast size? Shape of their vadges?
Nah, its easy.’ Greg replied. Julie’s got blonde hair...and Steve has a moustache.
..................................................

Sunday, 3 December 2017

First date

เรื่องนี้ค่อนข้างจะสวิงสวายนิดหน่อย แต่ศัพท์ และสํานวนที่เค้าใช้น่าเรียนรู้มาก ลองอ่านดูว่ารู้แค่ใหน 
First date
The 18-year-old chick was getting ready to go on a first date when her granny decided to give some advice.
“He’ll to try to kiss you,’ she said. “You’ru going to like that but don’t let him do
it.”
The chick nodded.
Gran continued, “He’ll also try to touch your breasts. You’ll like that, too, but don’t let him do it. Soon, he’ll try to feel between your legs. You’ll really like that but don’t let him do it.”


By now the young chick was wide-eyed and vigorously nodding.
Finally, Gran reached her main point. “Most importantly,” she advised, “he’ll try to get on top and have his way with you. You’ll love that but don’t let him do it, because that would disgrace our family.”
With this in mind the chick went off on her date. When she came home later that night she couldn’t wait to tell her granny about the date.
She told Gran that most of the things she said would happen did, in fact, happen during the evening.
“But,” she said proudly, 1 didn’t let him disgrace the family. When he tried that, I jumped on top of him and disgraced his family instead!” 

........................................................ 
 First date เฟิร์สเด๊ต แปลว่ามีนัดกับผู้ชายครั้งแรก
The 18-year-old chick สาวน้อยอายุสิบแปดปี
was getting ready ที่พร้อมแล้ว
to go on ที่จะไป
a first date นัดดูใจกับผู้ชายครั้งแรก
when her granny ถึงตอนนั้นคุณย่า
decided ตัดสินใจ
to give ที่จะให้
some advice. คําแนะนําบางอย่าง
“He’ll try
เขาจะต้องพยายาม
to kiss you,"
she said. คุณยายบอก
“You are going to หนูจะต้อง
like that ชอบมัน
but แต่ว่า
don’t let him do it.” อย่ายอมให้เค้าทํา
The chick nodded.
เด็กสาวพยักหน้า
Gran continued,
คุณยายพูดต่อ
“He’ll also try to เขายังต้องพยายาม
touch your breasts. ลูบคลําหน้าอกหนู
You’ll like that, too, หนูก็จะต้องชอบแบบนั้นด้วยเหมือนกัน
 but แต่ว่า
don’t let him do it. อย่าให้เค้าทําแบบนั้น
Soon, ไม่นานนัก
 he’ll try to feel เขาจะต้องพยายามล้วงมือเข้าไปลูบคลำ
between your legs. หว่างขาหนู
You’ll หนูจะต้อง
really like that ชอบมันมาก
but don’t let him do it.” แต่อย่าให้เค้าทำมัน
By now ถึงตอนนี้
the young chick สาวน้อย
was wide-eyed ได้เกิดอาการตาพอง
and แล้วก็
vigorously nodding. ผงกศรีษะรับอย่างรุนแรง
Finally,
สุดท้ายแล้ว
Gran คุณยาย
reached her main point ก็ถึงจุดใหญ่ใจความ
. “Most importantly,” สิ่งที่สำคัญที่สุด
she advised, คุณยายแนะนำ
“he’ll try to เขาต้องพยายามที่จะ
 get on top ขึ้นคร่อมตัวหนู
and แล้วก็
have his way with you. ใช้เส้นทางกับหนู
( อันนี้เป็นแสลงหมายถึงใช้เรือดำนํ้าแหวกว่ายเข้าไปในช่องแคบมะละกาของหนู)
You’ll love that หนูต้องชอบมันมาก
 but แต่ว่า
don’t let him do it, อย่ายอมให้เค้าทำมัน
because เพราะว่า
that would นั่นมันจะทำให้
disgrace เสื่อมเสีย
our family.” วงค์ตระกูลของเรา
With this in mind
ด้วยความรู้ทุกอย่างที่คุณยายสอนมาเข้าไปอยู่ในสมอง
the chick สาวน้อยคนนี้
went off ก็ออกไป
on her date. นัดดูใจของเธอ
When เมื่อ
 she came home กลับมาบ้าน
later that night ในตอนดึกคืนนั้น
she couldn’t wait หล่อนแทบจะทนรอไม่ใหว
to tell her granny ที่จะเล่าให้คุณย่าฟัง
about the date. เรื่องที่ไปนัดดูใจกับผู้ชายมา
She told
หล่อนบอก
Gran คุณยาย
that ว่า
most of the things เรื่องทั้งหมด
she said ที่คุณยายบอก
would happen did, ว่ามันจะเกิดก็ได้เกิดขึ้น
in fact, happen ก็เกิดขึ้นจริงๆ
would happen did, in fact, happen สํานวนนี้ น่าจําให้ได้ )
during the evening. ระหว่างคํ่าวันนั้น
“But,” แต่ว่า
she said proudly, หล่อนพูดอย่างภาคภูมิใจ
1 didn’t let him หนูไม่ยอมให้เขา
disgrace ทำให้เสื่อมเสีย
the family.วงค์ตระกูลของเรา
 When ตอนที่เขา
he tried that, พยายามทํษแบบนั้น
I jumped on top หนูกระโดดขึ้นคร่อมบนร่าง
of him ของเขา
and disgraced แล้วก็ทำความเสื่อมเสีย
his family ให้วงค์ตระกูลเขา
instead!” แทน
………………………………………………………………………………….




Sunday, 26 November 2017

A bit stiff

A bit stiff
THE teacher asked the kids to discuss what their dads did for a living.
“My dad’s a lawyer,” Mary boasted. “He puts the bad guys in the clink.”
“My father’s a doctor,” Conan grinned. “He makes all the sick people better.”
All the kids in the class had their turn except lil’ Johnny.
The teacher asked, “Johnny, what does your Dad do?”
“He’s dead, Miss,” he swore.
“Oh, I’m sorry to hear that,” the teacher cringed. “What did he do before he died?”
“He turned blue and shit on the carpet.” 

......................................
A bit stiff อบิต สติ๊ฟ แปลว่าแข็งไปหน่อย The teacher ครู 
asked the kids to ขอให้เด็กๆ
 discuss วิพากษ์วิจารณ์ หรือเล่าเรื่อง
what their dads did คุณพ่อของพวกเขาทําอะไร
for a living. สําหรับการดํารงชีพ
( ทั้งประโยคหมายถึงว่า อาชีพอะไร หรือทํามาหากินอะไร )
“My dad’s a lawyer,” คุณพ่อหนูเป็นทนายความ

Mary boasted. แมรี่ คุยอวดขึ้นมา
( boasted โบ๊สเต๊ด แปลว่าคุยโม้หรือคุยโว)
“He puts the bad guys เขาเอาคนไม่ดีใส่
 in the clink.” ในคุก
clink คลิ๊งค์ เป็นเสียงปิดประตูหรือใส่กุญแจคุก เป็นแสลง)
“My father’s a doctor,” คุณพ่อผมเป็นหมอ
Conan grinned. โคแนน ยิ้มละมัย
“He makes เขาทําให้
all the sick people คนป่วยทั้งหลาย
 better.” มีอาการดีขึ้น
All the kids 
เด็กๆทุกคนในชั้น
in the class ในชั้นเรียน
 had their turn ได้ผลัดกันเล่าจนครบหมดทุกคนแล้ว
(turn เทิร์น แปลได้หลายอย่าง แต่ที่พจนานุกรมไทยไม่เคยแปลคือ your turn ทีเธอ my turn ทีฉัน เหมือนเด็กเล่นกระโดดเชือก ผลัดกัน ..ดังนั้น ดิ๊กไทย มีคุณอนันต์ และก็มีโทษมหันต์เหมือนกัน 
         ถ้าเราเอาไปให้ กูเกิ๊ล ทานเสลด แปล จะได้ออกมาว่า...  ถึงคราวแล้ว... ที่ไม่ได้ใจความที่แท้จริง ทําให้สับสน เพราะกูเกิ๊ลทานเสลดคือ อาจารย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ที่ไม่สามารถเรียนภาษาอังกฤษรู้เรื่องได้เลย เพราะโครงสร้างทางสังคมไม่เหมือนฝรั่ง)
except ยกเว้น
lil’ Johnny. ไอ้หนูน้อย จอนนี่ หรือ liltle Johnny

The teacher asked, คุณครูถาม

“Johnny, จอนนี่
what does your dad do?” อะไรที่คุณพ่อหนูทํา
( ประโยคนี้ ต้องแปลทั้งประโยค
 what does your dad do? = what does he do ?)
“He’s dead, Miss เขาตายแล้วครับ คุณครู ,”
( เด็กฝรั่งจะเรียกครูว่า Miss ทุกคน 
 he swore. เขาพูดออกมาแบบ เครียดๆ
(swore สะวอร์ เป็นพ๊าสเท๊นส์ มาจาก swear สแวร์ แปลว่า พูดคําหยาบ หรือสบถ แต่ในเรื่องนี้ หมายถึงพูดออกมาด้วยอารมณ์เครียด หรือกัดฟันพูดนั่นเอง)
“Oh, โอ้
I’m sorry ฉันเสียใจ
to hear that,” ที่ได้ยินเรื่องนี้
the teacher cringed. คุณครูพูดแบบเอาใจ แบบไม่อยากได้ยินเรื่องแบบนี้
(cringed คริ๊งจ์ เป็นกิริยาที่ละเอีอดอ่อน 
ดูคลิ๊บนี้ )
https://www.youtube.com/watchv=Fe65Ws9OfqI
“What did he do เขาทําอะไร
before he died?” ก่อนที่เขาจะตาย
“He turned blue เขาหน้าเขียว

( ฝรั่งจะใช้ว่า turned blue หรือเปลี่ยนสีเป็นนํ้าเงิน
and shit แล้วก็ขี้ราด
on the carpet.” ลงบนพรม
( จอนนี้พาซื่อ เข้าใจว่าครูถามว่า มีอาการอย่างไร
ไม่คิดว่า ครูจะถามว่า พ่อทําอาชีพอะไร )





Lady garden

Lady garden
A SHEILA had tried everything to get her tomatoes to turn as red as her neighbour’s batch, but nothing seemed to work. She finally asked him for his secret.
“Twice a day I stand in front of my
tomatoes and expose myself,” the
neighbour said. “My tomatoes turn bright red from blushing so much.”
The chick was so impressed she decided to give this unusual technique a bash.
Twice a day for two weeks she stripped and posed in front of her veggie garden.
One day, the neighbour spotted her over the fence.
“How did you get on?” he asked the woman. “Did you tomatoes turn red?”
“No,” she replied, “but my cucumbers are enormous.”
.......................................................
Lady garden เลดี้ การ์เด๊นแปลว่าเจ้าของสวนที่เป็นผู้หญิง
A SHEILA ชีล่าแปลว่าผู้หญิง คำนี้ คือ ผู้หญิงคนหนึ่ง
had tried everything ได้พยายามทุกอย่างแล้ว
to get ที่จะให้
her tomatoes มะเขือเทศของเธอ
to turn ให้เปลียนเป็น
as red as สีแดงเหมือน
her neighbour’s batch, พวงมะเขือเทศของเพื่อนบ้าน
(batch บั๊ตช์ แปลว่า มะเขือเทศจำนวนมากหรือเป็นพวง)
but แต่ว่า
nothing ไม่มีอะไร
seemed ที่ดูเหมือนว่า
 to work. จะได้ผล
She finally ในที่สุดหล่อนก็
asked him ถามเขา
for his secret. ถึงเรื่องเคล็ดลับ
“Twice a day
วันละสองครั้ง
I stand ผมยืน
in front ตรงหน้า
of my tomatoes ของต้นมะเขือเทศของผม
and expose myself,” แล้วก็แก้ผ้าให้มันดู


the neighbour said. เพื่อนบ้านพูดอีกว่า
“My tomatoes มะเขือเทศของผม
turn bright red เปลี่ยนเป็นสีแดงจัด
from blushing so much.” อันเกิดมาจากอายจนหน้าแดงบ่อยมาก
The chick สาวคนนี้
was so impressed รู้สึกประทับใจมาก
she decided หล่อนตัดสินใจ
to give this unusual technique a bash. ที่จะใช้วิธีประหลาดนี้
(to give this a bash = to give this a go )
Twice a day
วันละสองครั้ง
for two weeks เป็นเวลาสองอาทิตย์
she stripped หล่อนเปลื้องผ้า
and posed แล้วก็แอ่นกึ๋น
in front of ตรงหน้า
her veggie garden. แปลงผักของหล่อน
One day,
วันหนึ่ง
the neighbour เพื่อนบ้านคนนี้
spotted her  แลเห็นเธอ
over the fence. จากการมองข้ามรั้ว
“How did you get on?”
คุณทำมันแล้วได้ผลเป็นไงบ้าง
he asked the woman. เขาถามผู้หญิง
“Did your tomatoes ไอ้มะเขือเทศทั้งหลายแหล่ของคุณนะ
turn red?” เปลี่ยนเป็นสีแดงมั๊ย
“No,” she replied,
ไม่ หล่อนตอบ
“but  แต่ว่า
my cucumbers แตงกวาของฉัน
are enormous.” ดันใหญ่โตเบ้อเริ่มเทิ่มขึ้นมา
.......................................................